Skip to main content

ลดการเกิดโรคในสัตว์โดยไม่เพิ่มการดื้อยาปฏิชีวนะ

ดร. ฟิโอนา วอลช์ (Dr. Fiona Walsh) จากมหาวิทยาลัย Maynooth ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพสัตว์โดยไม่เพิ่มการดื้อยาปฏิชีวนะที่งาน Alltech ONE Dublin

บล็อกต่อไปนี้เป็นการสรุปความจากบทสัมภาษณ์ดร. ฟิโอนา วอลช์ ในพอดคาสต์ Ag Future ที่ Alltech ONE Dublin จัดโดย ทอม มาร์ติน (Tom Martin) พร้อมข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมจากการนําเสนอของ ดร.วอลช์จากงาน Alltech ONE Dublin สามารถฟังคลิปเต็มได้ที่ Apple PodcastsSpotify หรือ Google Podcasts

 

การดื้อยาปฏิชีวนะ (AMR) เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ของโลก ภายในปีค.ศ. 2050 มนุษย์ทั่วโลกจะเสียชีวิตจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดื้อยาปฏิชีวนะมากกว่ามะเร็ง ภายในกรอบเวลาเดียวกันจะมีการสูญเสีย 11% ในการผลิตปศุสัตว์จากการดื้อยาต้านจุลชีพ

ที่ Alltech ONE Dublin ดร. ฟิโอนา วอลช์ ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยา จากมหาวิทยาลัย Maynooth และหัวหน้าศูนย์วิจัยการดื้อยาต้านจุลชีพที่ One Health Research Center ได้นําเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการลดการเกิดโรคในสัตว์โดยไม่เพิ่มการดื้อยาปฏิชีวนะ

"สิ่งที่เราต้องจําไว้จริงๆ คือ ไม่ใช่แค่ปัญหาสุขภาพของมนุษย์เท่านั้น นี่เป็นปัญหาสุขภาพร่วมกัน (One Health)" ดร.วอลช์กล่าว "[การดื้อยาฯ] กําลังเพิ่มสูงขึ้นในสัตว์ มันจะลดผลผลิต มันจะทําให้เราไม่สามารถรักษาการติดเชื้อได้ เมื่อมีเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพมากขึ้น"


"One Health" เป็นการเคลื่อนไหวไปสู่ความตระหนักและการดําเนินการด้านสุขภาพที่มีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น AMR เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพเพราะสามารถถ่ายโอนถึงกันระหว่างสัตว์และดิน หรือระหว่างอาหารกับมนุษย์

การทําความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งผ่าน AMR แบบพลาสมิดและผลกระทบ

พลาสมิด (Plasmids) เป็นชิ้นส่วนดีเอ็นเอเคลื่อนที่ได้ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ระหว่างแบคทีเรียต่าง ๆ รวมถึงแบคทีเรียในสายพันธุ์เดียวกันหรือสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน พวกมันเป็นพาหะหลักของยีน AMR และส่วนประกอบทางพันธุกรรมที่เล็กที่สุดที่สามารถถ่ายโอนถ่ายความต้านทานได้

การทําความเข้าใจว่าพลาสมิดถ่ายโอนระหว่างแบคทีเรียได้อย่างไร เป็นกุญแจสําคัญในการระบุวิธีป้องกันการถ่ายโอนความต้านทานต่อยาฯ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบปัจจัยที่ยับยั้งการถ่ายโอนและสํารวจว่าพลาสมิดเคลื่อนที่ภายในและระหว่างมนุษย์และสัตว์อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแบคทีเรียที่ไม่ทําให้เกิดโรคไปจนถึงแบคทีเรียที่ทําให้เกิดโรคซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สําคัญ

เมื่อสัตว์มีสุขภาพดีและไม่ต้องการยาต้านจุลชีพ พลาสมิดที่มีอยู่ในยาต้านจุลชีพจะไม่มีข้อได้เปรียบในการคัดเลือกตามธรรมชาติ (selective advantage) ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อพลาสมิดซึ่งมียีนดื้อยาอยู่ในแบคทีเรียที่กำลังก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะไม่ได้ ดังนั้นการดูแลรักษาสุขภาพจึงเป็นสิ่งสําคัญในการป้องกันโรคมากกว่าการพึ่งพาการรักษา

ความสําคัญของการลดการพึ่งพายาปฏิชีวนะ

ดร. วอลช์กล่าวว่าสิ่งสําคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติที่สามารถป้องกันหรืออย่างน้อยก็ลดการเกิดการติดเชื้อในฟาร์มที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ การเปลี่ยนผ่านไปสู่การทําฟาร์มที่ใช้ยาปฏิชีวนะน้อยที่สุดหรือไม่ใช้เลยเป็นสิ่งจําเป็น แต่ควรทําในลักษณะที่ช่วยให้สัตว์มีสุขภาพดีในสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้การผลิตมีประสิทธิผล

ดร. วอลช์กล่าวว่า การทําฟาร์มจําเป็นต้องมีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ในขณะที่หลายองค์กรสนับสนุนการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะในการผลิตสัตว์ แต่เราก็ต้องพิจารณาผลกระทบในวงกว้างนอกเหนือจากราคาอาหารเนื่องจากผู้บริโภคอาจแบกรับต้นทุนนั้น การรักษาสุขภาพสัตว์เป็นสิ่งสําคัญสําหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่การผลิตที่ปราศจากยาปฏิชีวนะที่ประสบความสําเร็จ

สร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนและความสามารถในการทํากําไร

การสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนและความสามารถในการทํากําไรในภาคการเกษตรจําเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่หลากหลายและมุมมองของทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น คุณค่าที่ผู้บริโภคให้กับเนื้อสัตว์ที่ปราศจากยาปฏิชีวนะนั้นมีอิทธิพลต่อความเต็มใจที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคไม่สามารถรับรู้ถึงคุณค่าของเนื้อสัตว์ที่ปราศจากยาปฏิชีวนะ เกษตรกรอาจเผชิญกับความท้าทายเนื่องจากผลกําไรอาจจะตามหลังต้นทุนที่สูงขึ้นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นในปัจจุบันเกี่ยวกับยาปฏิชีวนะ

ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์สามารถมีส่วนร่วมโดยการรับฟังความยากลําบากที่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต้องเผชิญและเสนอแนวทางแก้ไข แต่การบรรลุความยั่งยืนต้องใช้ความพยายามร่วมกัน หลายองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและดําเนินการตามกลยุทธ์ที่จัดการกับความท้าทายเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ

อนาคตของไมโครไบโอม สุขภาพสัตว์ และการป้องกัน AMR

"นี่คือยุคทองของเราในแง่ของไมโครไบโอม" เรารู้อยู่แล้วว่าไมโครไบโอมที่แข็งแกร่งและมีความสมดุลสามารถเป็นระบบป้องกันที่ทรงพลัง และเมื่อเราเข้าใจหัวข้อสําคัญนี้ จะเปิดโอกาสให้นวัตกรรมใหม่ในอนาคต

นอกจากนี้ ความก้าวหน้า sequencing technology ยังมอบโอกาสที่น่าตื่นเต้น ทําให้นักวิจัยสามารถเห็นภาพแบคทีเรียแต่ละตัวภายในไมโครไบโอมโดยไม่จําเป็นต้องเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ความก้าวหน้านี้ช่วยให้เข้าใจถึงตัวตนและหน้าที่ของแบคทีเรียแต่ละตัวได้อย่างครอบคลุม ทำให้มองเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับไดนามิกของไมโครไบโอมและการมีอยู่ของพลาสมิดและโฮสต์ของแบคทีเรีย ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของการโต้ตอบที่ซับซ้อนนี้กําลังให้ข้อมูลมากมายสําหรับการสํารวจเพิ่มเติม

สุดท้าย ดร.วอลช์เน้นว่า AI และการสร้างแบบจําลองมีบทบาทสําคัญอย่างไร ในการทําความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างพลาสมิดแบคทีเรีย AMR และไมโครไบโอม  AI ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้นักวิจัยสามารถสํารวจสถานการณ์ทั่วโลกได้ เช่น การกําจัดยาปฏิชีวนะออกจากการผลิตไก่ควบคู่ไปกับอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วย AI เราสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ซับซ้อนและการเคลื่อนไหวภายในแบคทีเรียในระดับจุลภาค อย่างไรก็ตามสิ่งสําคัญคือต้องยอมรับว่าความน่าเชื่อถือของแบบจําลองขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพของข้อมูลพื้นฐาน และดร.วอลช์ยังได้ยกให้เห็นความสําคัญของการทดลองขนาดเล็กเพื่อตรวจสอบแบบจําลองขนาดใหญ่เหล่านี้อีกด้วย

 

Loading...