Skip to main content

สารพิษจากเชื้อรา: ความท้าทายล่าสุดที่อาจขัดขวางความสำเร็จของธุรกิจเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของคุณ

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจะมีความสําคัญต่อการสร้างความมั่นคงด้านอาหารสําหรับคนรุ่นต่อไป ดังนั้นความรับผิดชอบของพวกเราก็คือ การทำให้แน่ใจว่าโปรตีนจากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีคุณภาพสูงสุดสําหรับการบริโภคของมนุษย์ เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการผลิตอาหารสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดและยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงข้อมูลจาก The 2022 Alltech Agri-Food outlook  การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเอเชียแปซิฟิกเติบโตขึ้น 3.3% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งอินโดนีเซียคือ 10% ของการเติบโตในภูมิภาคนี้

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีความพยายามอย่างมากในการจัดหาแหล่งอาหารที่ยั่งยืนเพื่อให้ถึงเป้าหมายการเติบโตนี้ มีการพัฒนาอย่างชัดเจนในการลดปริมาณการใช้วัตถุดิบจากทะเลในอาหารสัตว์น้ำ และทดแทนด้วยส่วนผสมที่ได้จากพืชและผลพลอยได้จากพืช ซึ่งเท่าที่ผ่านมาก็ประสบความสําเร็จเป็นอย่างดี ในขณะที่อุตสาหกรรมมุ่งมั่นที่จะผลิตแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนที่สุด นักโภชนาการอาหารสัตว์น้ำจึงต้องพึ่งพาวัตถุดิบที่ได้จากพืชเพื่อกําหนดอาหารสัตว์น้ำมากขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ จึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของการปนเปื้อนของสารพิษจากเชื้อรา (mycotoxin) ในอาหารสัตว์น้ำมากขึ้น

สารพิษจากเชื้อรา ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของอาหารสัตว์น้ำ, สุขภาพของปลาและกุ้งของคุณและความสําเร็จทางเศรษฐกิจของฟาร์มของคุณ การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ ได้ตรวจสอบผลกระทบของสารพิษจากเชื้อรา DON (Deoxynivalenol) ต่อประสิทธิภาพการเจริญเติบโต การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน  และสุขภาพลําไส้ของปลาเทอร์บอท การศึกษาแสดงให้เห็นว่าอาหารที่ปนเปื้อน DON นั้นส่งผลอัตราการเพิ่มน้ำหนัก อัตราการเติบโตจำเพาะ และอัตราส่วนประสิทธิภาพการใช้อาหารของปลาที่แย่ลงอย่างมีนัยสําคัญ นอกจากนี้อาหารที่ปนเปื้อน DON ยังลดความอุดมสมบูรณ์ของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ แต่เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดโรคในลําไส้ (Wang et al, 2021)

 

การวิเคราะห์ความเสี่ยงจากสารพิษจากเชื้อราของการผลิตสัตว์น้ำในเอเชีย 2021

ในช่วงปี 2021 Alltech ได้ทําการสํารวจทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อระบุความเสี่ยงของสารพิษจากเชื้อราในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผลจากการสำรวจได้ถูกนําเสนอในการสัมมนาออนไลน์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตัวอย่างวัตถุดิบเกือบ 200 ตัวอย่างถูกรวบรวมจากบังคลาเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม และได้ถูกตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการเพื่อการวิเคราะห์ Alltech 37+® ของออลเทค และบางตัวอย่างในบางพื้นที่ก็ได้ถูกตรวจสอบด้วยระบบ Alltech RAPIREAD® ซึ่งใช้เทคโนโลยี Neogen lateral-flow โดยในกลุ่มตัวอย่างที่นำมาทดสอบนั้น มีทั้งอาหารสัตว์สำเร็จและวัตถุดิบอาหารสัตว์น้ำที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการผลิต โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือง ได้มีการนําเข้าจากยุโรปหรืออเมริกา

 

ความเสี่ยงระหว่างธัญพืชและผลพลอยได้จากธัญพืช แตกต่างกันอย่างสังเกตได้

ในอาหารสัตว์น้ำ มักจะไม่มีข้าวโพดและข้าวสาลีในรูปแบบธรรมชาติอยู่ แต่มักจะอยู่ในรูปแบบผลพลอยได้ ความเสี่ยงของสารพิษจากเชื้อราของข้าวโพดและข้าวสาลีทั่วโลกนั้น อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตามเมื่อข้าวโพดและข้าวสาลีถูกผลิตเป็นผลพลอยได้ จะเพิ่มความเสี่ยงขึ้น เนื่องจากการสารพิษจากเชื้อราที่มีอยู่ จะมีความเข้มข้นขึ้นในมวลที่น้อยลง

ข้าวโพดทั่วโลก

ผลพลอยได้จากข้าวโพด: กากดีดีจีเอส (distillers dried grains), กลูเทนข้าวโพด (Corn gluten meal) และรําข้าวโพด

การวิเคราะห์นี้ได้นําค่าเฉลี่ยจากตัวอย่างทั้งหมดที่วิเคราะห์ ที่แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญระหว่างค่าสูงสุดและค่าเฉลี่ย

 

ภัยของสารพิษจากเชื้อราหลายชนิด

ในขณะที่เราเข้าใจเรื่องผลกระทบจากการเสริมฤทธิ์กันของสารพิษจากเชื้อราหลายชนิด การศึกษาแสดงให้เห็นชัดเจนขึ้นว่า สารพิษจากเชื้อราที่มีระดับความเสี่ยงต่ำแต่อยู่รวมกันหลายชนิด ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงอย่างมีนัยสําคัญต่อสัตว์น้ำทุกประเภทได้ วัตถุดิบ เช่น รําข้าวและแป้งสาลีมีสารพิษจากเชื้อรามากกว่าสี่ชนิดโดยเฉลี่ย ตัวอย่างอาหารสัตว์น้ำจืดที่รวบรวมมานั้น มีปริมาณอะฟลาทอกซิน ฟูโมนิซิน และซีราเลโนนในระดับค่อนข้างต่ำ ในขณะที่ DON อยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม การมีสารพิษจากเชื้อราเหล่านี้อยู่ด้วยกัน จะสร้างความเสี่ยงที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสําคัญต่อสัตว์น้ำจืด

จากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า โดยรวมแล้วโปรตีนจากพืชมีความเสี่ยงของการปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อราแบบหลายชนิดในระดับต่ำ ซึ่งอาจเป็นเพราะฤดูเพาะปลูกของถั่วเหลืองและเรพซีดนั้น เป็นช่วงที่ไม่พบสารพิษจากเชื้อรามากนัก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่ำไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยง เมื่ออุตสาหกรรมการผลิตสัตว์น้ำเพิ่มส่วนผสมจากพืชในสูตรอาหารสัตว์น้ำมากขึ้น จึงทำให้มีแนวโน้มการใช้โปรตีนจากพืชในปริมาณที่สูงขึ้นนั่นเอง แม้ว่าระดับสารพิษจากเชื้อราโดย เฉลี่ยในส่วนผสมเหล่านี้อาจค่อนข้างต่ำ แต่หากเจาะจงตัวอย่างบางตัวก็จะพบความเสี่ยงในระดับสูง และการเสริมฤทธิ์กันของสารพิษจากเชื้อราหลายตัวก็มีอันตรายต่อสัตว์น้ำมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะอนุบาลของปลาและกุ้งซึ่งมีความเสี่ยงมากที่สุด

ผลกระทบของสารพิษจากเชื้อราต่อสุขภาพของปลา

5 อันดับสารพิษที่พบมากที่สุดจากข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์:

  1. ไทรโคธีซีนชนิด B (Type-B trichothecenes)
  2. ฟูโมนิซิน (Fumonisins)
  3. สารพิษจากเชื้อราอุบัติใหม่ (Emerging mycotoxins)
  4. ซีราลีโนน (Zearalenone)
  5. อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin)

การมีอยู่ของสารพิษจากเชื้อราใด ๆ ในอาหารสัตว์น้ำ จะทําให้เกิดความเครียดในระบบภูมิคุ้มกันมากขึ้น ประสิทธิภาพการเจริญเติบโตลดลง และอัตราส่วนการแลกเนื้อที่เพิ่มขึ้น สารพิษจากเชื้อราแต่ละชนิด สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงที่แตกต่างกันต่อสัตว์น้ำแต่ละสายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดจากการเสริมฤทธิ์กันของสารพิษฯ หลายชนิด ในช่วงระยะเวลาการรับสารพิษฯ ที่ยาวนานอาจเป็นอันตรายมากขึ้น โดยจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคอาหาร อัตราการเจริญเติบโต และอัตราการเสียชีวิต ซึ่งทําให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสําหรับผู้เลี้ยง

 

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงทั่วโลก เป็นไปได้อย่างสูงว่าจะพบสารพิษจากเชื้อราเพิ่มมากขึ้น ในเอเชียมีการพึ่งพาวัตถุดิบที่นําเข้าอย่างมาก ประกอบกับการขนส่งข้ามโลก ก็อาจเพิ่มระดับความเสี่ยงขึ้นไปอีก

และเช่นเคยที่ Alltech ใช้วิธีการแบบองค์รวมในการดูแลสุขภาพปลาและกุ้ง สารพิษจากเชื้อราสามารถเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะมีการเก็บเกี่ยวพืช ในระหว่างการเก็บรักษาเมล็ดพืชและอาหารสัตว์ รวมถึงในระหว่างการเก็บเกี่ยว การขนส่ง และการเก็บรักษา วิธีเดียวที่จะทำให้เข้าใจความเสี่ยงที่แท้จริงที่มีในวัตถุดิบหรืออาหารสัตว์ของคุณ คือการวางโปรแกรมตรวจสอบเป็นประจําและใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

หากต้องการทราบวิธีจัดการความเสี่ยงของสารพิษจากเชื้อราในภูมิภาคของคุณ โปรดติดต่อเราหรือเยี่ยมชม knowmycotoxins.com

Loading...