Skip to main content

Noble Foods กับการผลิตไข่อย่างยั่งยืน

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ความยั่งยืน เป็นหนึ่งในคําที่ถูกใช้มากที่สุดในภาคการเกษตรในขณะนี้ และเป็นไปได้ว่าจะถูกพูดไปจนถึงทศวรรษหน้า ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมเกษตรอาหารกําลังทํางานอย่างหนักเพื่อเดินทางไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห่วงโซ่ของการผลิตไข่

โนเบิล ฟู้ดส์ (Noble Foods) เป็นบริษัทชั้นนําในสหราชอาณาจักรที่มุ่งมั่นในการมอบสินค้าและบริการให้แก่อุตสาหกรรมไข่อย่างยั่งยืน ตั้งแต่การดูแลและสวัสดิภาพสัตว์ ไปจนถึงการจัดการคาร์บอนและของเสียในการผลิต

โนเบิล ฟู้ดส์เข้าสู่โลกของไข่เมื่อ 100 ปีก่อนภายใต้ชื่อ 'Deans Foods' ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1920 วิลเลียม ดีน ใช้วิธีการขายไข่ถึงหน้าประตูบ้านแบบ door-to-door ด้วยม้าและเกวียน

วันนี้ โนเบิล ฟู้ดส์ ยังคงบริหารงานโดยครอบครัว Dean ในรุ่นที่ 3 และ 4 พวกเขาผลิตไข่ได้ 400 เมตริกตันทุกสัปดาห์ ในจำนวนนั้น 58% เป็นผลิตภัณฑ์ไข่จากไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อย (free-range)

 

ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท:

 

  • ผลิตอาหารสัตว์ประมาณ 750,000 เมตริกตันทุกปี จากโรงงานอาหารสัตว์ 5 แห่ง
  • เลี้ยงไก่สาวประมาณ 4 ล้านตัวต่อปี ในช่วงอายุ 1-16 สัปดาห์ จาก 14 โรงเลี้ยง
  • มีฟาร์มไก่ไข่ 280 แห่ง ทั้งที่บริษัทเป็นเจ้าของเองและฟาร์มของเกษตรกรพันธสัญญา

โนเบิล ฟู้ดส์ เป็นผู้นําในการบูรณาการธุรกิจในแนวตั้งของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกในสหราชอาณาจักร

 

โนเบิล ฟู้ดส์ มีความภาคภูมิใจและได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรม จากการที่เป็นบริษัทแรกที่ทดลองใช้วัคซีน Salmonella ในช่วงปี 1990s เพื่ออยู่ใน tier 1 ของโมเดล BB4 (โปรแกรมสวัสดิภาพการควบคุม)

 

การพัฒนาวิสัยทัศน์และวิธีการ

ไม่กี่เดือนที่ผ่าน โนเบิล ฟู้ดส์ ได้ตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่ท้าทาย และยังใช้เป็นเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนบริษัทอีกด้วย เกรแฮม แอทคินสัน, ผู้อำนวยการด้านการเกษตรสำหรับผู้ผลิต ของ โนเบิล ฟู้ดส์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ให้ประสบความสำเร็จ

ในความเห็นของเกรแฮม ความยั่งยืนอาจมีความหมายไม่เหมือนกันต่อผู้คนและธุรกิจที่แตกต่างกัน ไม่มีวิธีที่ถูกต้องหรือผิดที่ชัดเจนในการ "ลงมือทํา" เขาไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรหรืออย่างไร อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่โนเบิลฟู้ดส์ต้องการทำให้สำเร็จ และสิ่งใดที่ออลเทคสามารถช่วยได้ ดังนั้นเขาจึงถามคําถาม: เราสามารถร่วมมือกันเพื่อทําให้ความท้าทายด้านความยั่งยืนกลายเป็นโอกาส ผ่านโครงการ Planet of Plenty partnership ได้หรือไม่?

ในขณะที่เกรแฮมและทีมผู้บริหารยอมรับว่าการเดินทางของบริษัทกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง และแน่นอนว่าจะต้องมีความยากลำบากเกิดขึ้นระหว่างเส้นทางนี้ แต่พวกเขาก็ได้กําหนดวิสัยทัศน์เชิงรุกของพวกเขาอย่างชัดเจนและมุ่งให้ความสำคัญในสี่ประเด็น ดังนี้:

  1. คาร์บอน ฟุตพริ้นท์: ลดผลกระทบจากวิธีการให้อาหารสัตว์
  2. การสูญเสียอาหาร: การฟื้นฟูและกู้คืนไข่ชั้นหนึ่งให้สามารถนำมาใช้ได้มากขึ้น
  3. การใช้ที่ดิน: การลดการใช้วัตถุดิบและหาวัตถุดิบทดแทน
  4. สวัสดิภาพของสัตว์: การเพิ่ม, พัฒนา และผลักดัน การเติมเต็มชีวิตของไก่ไข่

และส่วนที่ยากคือ การลงมือทำ! หรือการเริ่มก่อร่างสร้างให้มันเกิดขึ้นได้ ซึ่งตอนนี้ เกรแฮมก็กำลังขะมักเขม้นกับการสร้างความร่วมมือของผู้เล่นในอุตสาหกรรม ให้มารวมตัวกันและแบ่งปันความเชี่ยวชาญ

 

การเดินทางร่วมกัน

เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ที่เกรแฮมได้ตามล่าหาพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน พันธมิตรซึ่งจะสามารถทําหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและผู้อํานวยความสะดวกได้ พันธมิตรที่จะมีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ, ทักษะ, วิทยาศาสตร์, และความรู้ที่จําเป็นเพื่อให้เดินทางไปด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว พันธมิตรที่สามารถสนับสนุนสถานะความเป็นผู้นําของพวกเขาได้

โนเบิล ฟู้ดส์ มุ่งมั่นที่จะเป็นผลิตไข่แบบ cage-free 100% ภายในปี 2025

 

ออลเทค มีความคล้ายคลึงกับ โนเบิล ฟู้ด เพราะเป็นธุรกิจครอบครัว และดําเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายและให้คุณค่ากับความยั่งยืนเหมือนกัน ค่านิยมและวิธีการทํางานที่คล้ายกันเหล่านี้ เป็นสิ่งที่จุดประกายและทําให้ความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทเป็นไปอย่างมั่นคง - นั่นคือความคิดที่ต้องการสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่กว่าและเร็วกว่าโดยการทํางานร่วมกัน

ด้วยพลังของวิทยาศาสตร์และโภชนาการ ออลเทคกําลังทํางานอย่างใกล้ชิดกับ supply chain ของโนเบิล ฟู้ดส์ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนสิ้นสุด เพื่อช่วยกันผลิตไข่ที่มีคุณภาพมากขึ้นจากไก่ที่มีความสุข และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง

ความร่วมมือกันเพื่อไปสู่ Planet of Plenty ระว่าง โนเบิล ฟู้ดส์ และ ออลเทคนั้นยังอยู่ในระยะแรก โครงการนําร่องแรกเพิ่งเริ่มต้นขึ้นแต่ผู้คนใน supply chain ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นผลของความร่วมมือในการผลิตไข่ในอนาคตอันใกล้

Loading...