การส่งเสริมสุขภาพสมองของสัตว์เลี้ยง

จะเกิดอะไรขึ้นกับสมองของสัตว์เลี้ยงของเรา เมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น?

เช่นเดียวกับมนุษย์ สัตว์เลี้ยงที่มีอายุมากขึ้นต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่อาจส่งผลต่อกระบวนการรับรู้และเข้าใจ การเผาผลาญ และการทำงานอื่น ๆ ของร่างกาย มีงานวิจัยมากขึ้นที่ชี้ให้เห็นว่าการส่งเสริมการทํางานของกระบวนการรับรู้และเข้าใจตั้งแต่ช่วงต้นของชีวิต จะช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสมองที่เกี่ยวข้องกับอายุที่มากขึ้นได้

สมองของสัตว์เลี้ยงที่แก่ชราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีน (gene expression) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการจัดการโปรตีนที่ผิดปกติ ปริมาณของเนื้อเยื่อที่มีอยู่ และแม้แต่อัตราในการสร้างวิถีประสาท (neural pathways) ใหม่

ข่าวดีก็คือการป้องกันความเสื่อมถอยของกระบวนการคิด เรียนรู้ และเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับอายุ สามารถช่วยได้ด้วยสารอาหารและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

สารอาหารชนิดใดที่สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพสมองของสัตว์เลี้ยงของคุณได้?

สารอาหารที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ สารต้านอนุมูลอิสระ การเสริมสารต้านอนุมูลอิสระมีความสําคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสําหรับสัตว์เลี้ยงอายุมากที่ร่างกายสามารถจัดการกับอนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหายได้ลดลงตามอายุ

หนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดจากธรรมชาติมาในรูปแบบของแร่ธาตุ ซึ่งก็คือ ซีลีเนียม งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ซีลีเนียมอินทรีย์สามารถลด beta amyloid burden (เช่น โปรตีนผิดที่ปกติในสมอง) ลดการเกิดออกซิเดชันของดีเอ็นเอ และช่วยในการป้องกันพยาธิวิทยาของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอายุซึ่งส่งผลต่อกระบวนการรับรู้และเข้าใจที่ลดลง

สารอาหารที่สองคือ กรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น DHA และ EPA ที่มีคุณสมบัติในป้องกันระบบประสาทและต้านการอักเสบซึ่งช่วยในการส่งเสิรมสุขภาพสมอง

สุดท้ายคือ functional nutrients เช่น กรดอะมิโน และกลุ่มวิตามินบี ที่อาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง และมีบทบาทในการพัฒนาและส่งเสริมการทํางานโดยรวมของกระบวนการรับรู้และเข้าใจ

สัตว์เลี้ยงที่กำลังเผชิญกับภาวะความเสื่อมถอยของกระบวนการรับรู้และเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับอายุ อาจแสดงอาการดังนี้:

• สับสนหรืองุนงงหลงลืม
• มีความวิตกกังวลที่ต้องแยกจาก (Separation anxiety) หรือมีอาการ "ติดเจ้าของ" (clingy behavior)
• เกิดความกลัว เป็นโรคหวาดกลัว (phobia) หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว ในลักษณะที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
• มีพฤติกรรมขับถ่ายไม่เป็นที่บ่อยขึ้น
• ส่งเสียงดังหรือเสียงที่ผิดปกติ หรือ "พูด" มากกว่าปกติ
• แสดงพฤติกรรมทําลายข้าวของหรือย้ำคิดย้ำทำ ในลักษณะที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
• การนอนหลับผิดปกติ

3 ขั้นตอนในการส่งเสริมสุขภาพสมองของสัตว์เลี้ยงของคุณ

1.   เลือกโภชนาการที่มีคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้น  อ่านฉลากอาหารและมองหาส่วนผสมที่ใส่เพิ่มลงไปในอาหารสัตว์เลี้ยงของคุณ เช่น ซีลีเนียมอินทรีย์ 100% และกรดไขมันโอเมก้า 3

2.   ดูแลน้ำหนักของสุนัขและ/หรือ แมวของคุณ  นักวิทยาศาสตร์เริ่มพบความเชื่อมโยงระหว่างกระบวนการรับรู้และเข้าใจกับโรคอ้วน การควบคุมน้ำหนักให้ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งสําคัญสําหรับสุนัขและแมวด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งรวมถึงสุขภาพของสมอง

3.   ให้การกระตุ้นด้านสิ่งแวดล้อม  ส่งเสริมความยืดหยุ่นทางจิตใจของสุนัขและ/หรือแมวของคุณ โดยการเพิ่มกิจวัตรประจําวันและปรับปรุงสภาพแวดล้อม สําหรับสุนัขอาจหมายถึงกิจวัตรหรือรูปแบบการออกกําลังกายแบบใหม่ สําหรับแมวอาจเป็นของเล่นใหม่หรือการเพิ่มภูมิทัศน์ในบริเวณที่เขาอาศัย การให้สัตว์เลี้ยงได้พบกับสิ่งเร้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มการสร้าง neural pathway และช่วยให้สมองของพวกเขาอ่อนเยาว์