จัดการสารพิษจากเชื้อราเพื่อคุณภาพอาหารสัตว์ที่ดีที่สุด

การปนเปื้อนของสารพิษจากเชื้อเราหรือ mycotoxin อาจพบได้แม้แต่ในฟาร์มที่มีการจัดการที่ดี นับว่าเป็นเรื่องสําคัญสําหรับผู้ประกอบการที่ควรตรวจหาสารพิษจากเชื้อเราให้ได้โดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อสัตว์ในฟาร์มและจะช่วยลดปัญหาสุขภาพของสัตว์และผลผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ผลการตรวจวิเคราะห์สารพิษจากเชื้อราในผลผลิตพืชปี 2019

ในปี 2019 สหรัฐฯประสบกับสภาพอากาศที่มีความชื้นมากเกินไปในช่วงฤดูเพาะปลูก สภาพอากาศและระดับความชื้นเช่นนั้นสามารถทำให้ผลผลิตลดลงและก่อให้เกิดภาวะเครียดของพืช ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาเชื้อรา และสารพิษจากเชื้อรา ความชื้นที่เพิ่มขึ้นเอื้อให้เชื้อราฟิวซาเรียม (fusarium) เจริญเติบโต และผลิตสารพิษได้มากมาย เช่น deoxynivalenol (DON), กรด fusaric, T-2, HT-2 และซีราลีโนน (ZEN) สารพิษจากเชื้อราเหล่านี้อาจทําให้เกิดปัญหาสุขภาพและประสิทธิภาพต่อปศุสัตว์ได้มากมายเช่น การบริโภคอาหารลดลง, การผลิตน้ำนมลดลง, ปัญหาการสืบพันธุ์, ปัญหาทางเดินอาหารและสุขภาพอวัยวะภายใน รวมถึงปัญหาสุขภาพแฝงที่เพิ่มขึ้นด้วย

สารพิษจากเชื้อราเป็นปัญหาหนึ่งสําหรับผู้ผลิตน้ำนมวัว เพราะสารพิษเหล่านั้นส่งผลเสียต่อคุณภาพอาหารสัตว์และสุขภาพของสัตว์ สารพิษจากเชื้อรานั้นถูกผลิตขึ้นโดยเชื้อราบางชนิดและสารพิษเหล่านั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพและประสิทธิภาพของสัตว์ จากการทํางานร่วมกับผู้ประกอบการโคนมในวิสคอนซินและมินนิโซตาในการวิเคราะห์ตัวอย่างข้าวโพดหมักมากกว่า 100 ตัวอย่าง ที่ถูกส่งไปตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์สารพิษจากเชื้อรา Alltech 37 + ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา พบว่าสารพิษจากเชื้อรามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

จากตัวอย่างเหล่านั้น พบว่ามี Mycotoxin อยู่ในช่วง 3-14 ชนิดต่อตัวอย่าง โดยเฉลี่ยแล้วมี mycotoxin หรือสารพิษจากเชื้อรา 7.14 ชนิด จํานวนของสารพิษจากเชื้อราเป็นเรื่องสําคัญ เนื่องจากอาหารสัตว์ที่มีสารพิษจากเชื้อราหลายชนิดหมายถึงอันตรายต่อประสิทธิภาพและสุขภาพของสัตว์มากกว่าอาหารสัตว์ที่มีสารพิษจากเชื้อราเพียงหนึ่งหรือสองชนิด เพราะยิ่งมีสารพิษหลายชนิด พวกมันจะยิ่งส่งเสริมความเป็นพิษหรือ/และเชื่อมโยงกันมากขึ้น

ระดับของ mycotoxins ที่พบในพืชในปี 2019 มีจำนวนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมีนัยสําคัญ ผลผลิตข้าวโพดจากปี 2019 สามารถนำไปใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ แต่ผู้ประกอบการควรทดสอบข้าวโพดหมักของตัวเองและหาวิธีลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและประสิทธิภาพของสัตว์ของท่านให้ได้มากที่สุด

สารพิษไตรโคทีซีนประเภท B หรือ DON (ที่100%) และกรด fusaric (ที่ 99%) เป็นสารพิษที่พบได้มากที่สุดในตัวอย่างทั้งหมด ในขณะที่สารพิษจากเชื้อรากลุ่มอุบัติการณ์ใหม่ และซีราลีโนนถูกตรวจพบที่ 96% และ 60% ตามลําดับ สารพิษประเภทไตรโคทีซีนและกรด fusaric คือสองกลุ่มสารพิษที่พบได้บ่อยที่สุดในข้าวโพดและผลิตภัณฑ์จากข้าวโพด ซีราลีโนนได้ถูกตรวจพบบ่อยขึ้นและมีปริมาณเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสองปีที่อากาศชื้นที่สุดในรอบกว่า 12 ทศวรรษ (ในพื้นที่เก็บตัวอย่าง)

ในโคและสัตว์ประเภทเคี้ยวเอื้อง ลูกโคจะมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะได้รับผลกระทบจาก mycotoxins เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันและกระเพาะรูเมนยังไม่พัฒนาเต็มที่ ทําให้มีความเสี่ยงสูงต่ออัตราการบริโภคอาหาร ในขณะที่โคนมมีความเสี่ยงในระดับปานกลางขึ้นอยู่กับการทํางานของกระเพาะรูเมนและสุขภาพทางเดินอาหารของพวกมัน

เข้าใจอันตรายของ Mycotoxins

เริ่มต้นจัดการเชื้อราได้ด้วยการไถพรวน การกลับหน้าดินทำให้จุลินทรีย์ในดินช่วยทําลายสิ่งตกค้าง พร้อมไปกับการปลูกพืชหมุนเวียน นี่เป็นสองปัจจัยที่สำคัญต่อสุขภาพและความเครียดของพืช  การปลูกพืชแบบหมุนเวียน เช่นไม่ปลูกข้าวโพดต่อเนื่องทุกปี อาจช่วยทําลายวงจรของเชื้อราและสารพิษจากเชื้อราบางชนิดที่อยู่ในพื้นดิน แต่ก็ไม่อาจจะยืนยันได้ว่านั่นจะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้

ผู้ผลิตบางรายใช้ข้าวโพดหมักจากฤดูใบไม้ร่วงของพวกเขาทันทีที่เข้าเดือนธันวาคม ในขณะที่บางคนอาจรอจนถึงต้นปีถัดไป เมื่อเราดูปริมาณ mycotoxin ที่ได้จากตัวอย่างพืชสด จะเห็นได้ว่าระดับของ mycotoxin ในตอนนั้นจะเป็นระดับเริ่มต้นและจะไม่ลดน้อยลงกว่านั้น ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทําคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่จะไม่ไปเพิ่มระดับของ mycotoxins ในกระบวนการเก็บรักษาและการหมัก

อากาศหนาวเย็นที่มาพร้อมกับฤดูหนาวมักจะช่วยควบคุมปัญหาสารพิษจากเชื้อรา แต่เมื่ออากาศอุ่นขึ้นความชื้นในอากาศและสิ่งต่างๆเริ่มละลาย นั่นจะทำให้ปริมาณ mycotoxins เพิ่มขึ้น รวมถึง penicillium mycotoxins ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อราที่เกิดขึ้นจาการเก็บรักษาพืชอาหารสัตว์ penicillium mycotoxins สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่างๆในวัว ซึ่งได้แก่ ความผิดปกติในการย่อยอาหาร, การขับถ่ายผิดปกติ, คีโตซีส, และระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ นอกจากนี้ Penicillium ยังทำให้เกิดการสูญเสียอาหารแห้ง (dry matter loss) เนื่องจากทำให้อาหารหมักปนเปื้อนจนไม่ควรนำไปเป็นอาหารสัตว์

ภัยคุกคามของสารพิษจากเชื้อราเป็นเรื่องจริง และการเข้าใจระดับความเสี่ยงในฟาร์มของคุณเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละฟาร์มต่างมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เราจําเป็นต้องรู้ว่า mycotoxins ที่พบนั้นเป็นชนิดใดและมาจากที่ใด สิ่งแรกที่ต้องทำคือการทดสอบหาสารพิษจากเชื้อราในตัวอย่างอาหารสัตว์ จากนั้นทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและนักโภชนาการสัตว์เพื่อสร้างแผนเพื่อลดความเสี่ยงและ/ หรือบรรเทาอันตรายของ mycotoxin ต่อสัตว์ลง

mycotoxin มีอยู่ทั่วไปในระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เนื่องจากในแต่ละภูมิภาคมีอุณหภูมิ สภาพอากาศ และรูปแบบสภาพอากาศที่ไม่เหมือนกัน ชนิดและปริมาณของ mycotoxin จึงแตกต่างกันไปด้วย แม้แต่ฟาร์มในภูมิภาคเดียวกันก็อาจพบสารพิษจากเชื้อราที่แตกต่างกันได้

การทดสอบ Mycotoxins

ทีมสนับสนุนฟาร์มโคนมของออลเทคจะลงพื้นที่เพื่อไปทํางานร่วมกับผู้ประกอบการและนักโภชนาการสัตว์ของฟาร์มเพื่อประเมินสภาพอาหารสัตว์ ตรวจดูสถานที่และวิธีการเก็บอาหารสัตว์ มองหาสัญญาณของการปนเปื้อนเชื้อราที่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่าและใช้กล้องตรวจจับความร้อนควบคู่ไปด้วย

กล้องตรวจจับความร้อนช่วยให้เราระบุบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงซึ่งเอื้อให้เชื้อราและสารพิษจากเชื้อราเติบโตอย่างรวดเร็ว จากนั้นเราจะเก็บตัวอย่างเพื่อส่งไปยังห้องแล็บในนิโคลัสวิลล์, เคนทักกี้ เพื่อทดสอบหา mycotoxins อย่งละเอียด

จากประสบการณ์ที่ได้เห็นวัวและพูดคุยกับผู้ประกอบการณ์ฟาร์มโคจํานวนมาก พวกเราได้เห็นผลกระทบของการให้อาหารที่ปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อราหรือ mycotoxins กับวัวมากมายซึ่งได้แก่ การเปลี่ยนแปลงอัตราการบริโภคอาหารแห้ง (Dry matter intake) และความผันผวนของส่วนประกอบในน้ำนมเช่น ไขมันนมหรือโปรตีน ในระหว่างการเดินตรวจดูคอกเลี้ยง เราจะมองหาสัญญาณของผลกระทบจาก mycotoxin เช่น มูลที่ผิดปกติ  หรืออาหารที่วัวสำรอกออกมา การสำรอกอาหารของวัวเป็นสัญญาณพื้นฐานที่บ่งบอกว่ามีสารพิษ DON ในอาหารสัตว์ปริมาณสูง ความเข้าใจพฤติกรรมของวัวและคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง คุณภาพขน ลักษณะดวงตา ความเฉื่อยชาของวัว ก็เป็นสัญญาณบอกสุขภาพของกระเพาะรูเมนของวัวได้

ออลเทคมีการวิเคราะห์ผลผลิตข้าวโพดหมักประจําปีทุกฤดูใบไม้ร่วงและพบว่าจํานวนเฉลี่ยของ mycotoxins ต่อตัวอย่างเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ข่าวดีก็คือมีผู้ผลิตที่เริ่มเข้าใจสารพิษจากเชื้อรามากขึ้น รู้สาเหตุและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และตระหนักว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับสารพิษจากเชื้อราได้อย่างไร